ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งสำโรงใต้

ที่มาของงานกู้ภัย

    
     งานบรรเทาสาธารณภัย และ ฌาปนกิจ    เป็นงานแขนงหนึ่งซึ่งได้ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่ไต้ฮงยังมีชีวิต  และสืบทอดต่อมาโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง     ด้วยแรงศรัทธาสนับสนุนของสาธุชนทั้งหลาย  งานบรรเทาสาธารณภัยและฌาปนกิจ    ได้ขยายขอบข่ายงานกว้างขวางออกไป    มีศักยภาพในการปฏิบัติงาน  และพร้อมมูลด้วยพาหนะ  เครื่องมือ  อุปกรณ์ที่ทันสมัย    ในระยะแรกทั้งสองส่วนเป็นกิจกรรมที่รับผิดชอบร่วมกันในนาม แผนกบรรเทาสาธารณภัย   ปัจจุบันเปลี่ยน    ชื่อว่า “แผนกบรรเทาสาธารณภัย-ฌาปนกิจ 
         
งานบรรเทาสาธารณภัยหรือที่รู้จักในคำว่า  “หน่วยกู้ภัย”
            งานบรรเทาสาธารณภัย  ในระยะแรกเรียกกันว่  หน่วยกู้ภัย ซึ่งยังติดปากกันถึงทุกวันนี้แม้จะเปลี่ยนชื่อมาแล้วนานแสนนาน  ไม่ เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งเจ้าพนักงานตำรวจทหาร หรือ เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไม่ว่าจะเรียกขานในนามใดหน้าที่ของ พวกเขาก็คงเดิมกล่าวคือ
                        1. เก็บศพที่ตายผิดปกติ  ณ ที่เกิดเหตุ  ทั้งทางบก และ ทางน้ำ  ส่งโรงพยาบาลตำรวจ  โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์ชันสูตรศพ  เพื่อทำการชันสูตร
                        2. เมื่อมีอุบัติภัยที่กระทบกับมวลชนเป็นวงกว้าง  มูลนิธิฯ ถือเป็นภารกิจที่ต้องยื่นมือเข้าบรรเทา  ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ทั่วทุกจุดของประเทศ   เมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วจะรีบรุดไปปฏิบัติภารกิจนั้นทันที  เช่น  เพลิงไหม้ / ภัย สึนามิ / ตึกถล่ม  ฯ
                       
3. ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกภาพพยานหลักฐานประกอบคดี ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาพื้นที่เกิดเหตุ
ให้คงสภาพเดิม  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
                       
4. บริการประชาชนในในงานต่าง ๆ เช่น  แนะนำขั้นตอน - ระเบียบต่าง ๆ ในการแจ้งเพื่อทำใบมรณบัตรช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ตามที่เจ้าพนักงานตำรวจร้องขอ เช่น  ช่วยจับงูเงี้ยวเข้าบ้าน  ช่วยลากรถที่เสียไปหาช่าง
                        5. การนำผู้บาดเจ็บ  ณ  ที่เกิดเหตุส่งสถานพยาบาลเพื่อเยียวยาช่วยชีวิต  มีบุคลากร และ  อุปกรณ์
พร้อมมูล  สามารถดำเนินการช่วยชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หรือ นำส่งโรงพยาบาล ซึ่งมูลนิธิฯ มีทั้ง  รถพยาบาลช่วยชีวิตขั้นสูง(รถAdvance)ในนามหัวเฉียวพิทักษ์ชีพประจำที่โรงพยาบาลหัวเฉียว      และ  กู้ชีพขั้นพื้นฐาน(รถ Basic) ในนาม ป่อเต็กตึ๊งพิทักษ์ชีพ ขึ้นกับแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ
        

 
การพัฒนาการในงานเก็บศพ  ของ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 
เมื่อ  100  ปีก่อน กรุงเทพ ยังไม่เจริญ  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น คู  คลอง  เต็มไปด้วยเรือกสวนผลไม้อุดมสมบูรณ์   ประชาชนสัญจรทางเรือ  พายเรือหรือแจวขึ้นล่อง การเก็บศพทางน้ำ  ก็อาศัยเรือชาวบ้านนำศพขึ้นฝั่งแล้วนำขึ้นรถลาก ซึ่งเป็นรถที่มูลนิธิ ฯ สร้างขึ้นเอง   ลักษณะคล้ายเกวียนขนาดเล็ก ล้อไม้ 2 ล้อ  มีหลังคา  มีช่องพอดีสำหรับวางหีบศพ  ใช้คนลาก 1 คน ช่วยดันข้างหลังอีก 1  คน ระหว่างทางนำศพไปฝังจะเคาะกระป๋องขอทางคล้ายระฆังดัง“ป๋องแป๋ง ๆ”  เสียงวังเวง ชาวบ้านทั่วไปจึงเรียกรถเก็บศพ ว่า รถ“ป๋องแป๋ง”  เรียก ป่อเต็กตึ๊ง ว่า มูลนิธิป๋องแป๋ง


            ต่อมาในสมัยรัชการที่  5- 6 บ้านเมืองพัฒนาเจริญขึ้น  การตัดถนนหนทางเพิ่มขึ้นมากมาย   ถนนเจริญกรุงเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเสร็จ  มีรถรางวิ่งจากหลักเมือง สุดทางที่ถนนตก  การสัญจรสะดวกสบายขึ้น   แต่รถยนต์มีน้อยนับคันได้   รถเก็บศพของป่อเต็กตึ๊งยังเป็นรถลากเช่นเดิม   และมีรถสามล้อเพิ่มขึ้นมา           

    รถสามล้อที่ปัจจุบัน เรียกว่าสามล้อแดงที่ชาวบ้านใช้ส่งสินค้า ส่งน้ำแข็ง ตามตรอกซอกซอยในปัจจุบันนั่นเอง  แต่คงใช้ไม่สู้สะดวก  ต่อมาจึงใช้รถยนต์ตู้   และ รถปิคอัพแทน    ส่วนเรือเก็บศพทางน้ำ  ได้เปลี่ยนจากเรือพายขนาดเล็ก  เปลี่ยนเป็น  เรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์  เจ้าหน้าที่เก็บศพทางน้ำมีเครื่องมือมนุษย์กบ  มีเครื่องช่วยหายใจ   ส่วนการกู้ภัยทางบกนั้นมีเครื่องมือเพิ่มขึ้น  มีเครื่องตัดถ่าง  เครื่องปั๊มลม   มีรถกู้ภัยเอนกประสงค์ที่มีเครื่องมือต่าง ๆ สำหรับงานกู้ภัย มีหัวฉีดน้ำ และ ถังบรรจุน้ำสำหรับงานดับเพลิง  มีดวงโคมขนาดใหญ่กำลังไฟหลายพันแรงเทียน สำหรับใช้งานพื้นที่เกิดเหตุที่ต้องการแสงสว่างสูง  เป็นต้น

            การติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าพนักงานตำรวจ กับ หน่วยกู้ภัย ก็รวดเร็วขึ้น  มีการประสานการฏิบัติงานด้วยการสื่อสารทันสมัย ผ่าน ศูนย์วิทยุกรุงเทพฯ ที่ตั้งขึ้นมานั้น  มีส่วนอย่างมากในการเกื้อหนุนงานกู้ภัยให้ได้รับความสำเร็จสมดังเจตนาคณะกรรมการมูลนิธิ ฯ คาดหวังไว้